=

ข้อมูลประเทศ Singapore

 

Singapore

Highlight

  • มีพื้นที่เล็กกว่ากรุงเทพฯ และเล็กที่สุดในอาเซียน แต่กลับเจริญก้าวหน้ารอบด้านทั้ง เศรษฐกิจ การเงิน การลงทุน รวมทั้งคุณภาพชีวิต
  • สะอาด ปลอดภัย ไร้มลพิษ มีพื้นที่สีเขียวเฉลี่ย 66 ตารางเมตรต่อประชากรแต่ละคน
  • มีวัฒนธรรมที่หลากหลายที่ถูกให้ความสำคัญอย่างเท่าเทียม และผสมผสานกันได้อย่างลงตัว
  • ระบบการศึกษาดีที่สุดในเอเชีย และเข้มข้นตามมาตรฐานสากล

ภูมิประเทศ

  • ตั้งอยู่ปลายทิศใต้ของคาบสมุทรมลายู ระหว่างประเทศมาเลเซีย และประเทศอินโดนีเซีย
  • เป็นประเทศที่เป็นเกาะขนาดเล็กที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประกอบด้วยเกาะหลักคือเกาะสิงคโปร์ มีพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 640 ตารางกิโลเมตร มีรูปร่างเหมือนสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูน และยังมีเกาะเล็กๆ มากกว่า 60 เกาะ
  • สิงคโปร์แบ่งเขตการปกครองออกเป็น 5 ภาค ได้แก่
  • ภาคกลาง : มี Singapore River เป็นที่ตั้ง เป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจและการเงินของสิงคโปร์ ที่ตั้งสำนักงาน/ห้างร้านขนาดใหญ่ และโรงแรมชั้นนำ
  • ภาคตะวันตกเฉียงใต้ : ประกอบด้วยสถานที่สำคัญ ได้แก่ นิคมอุตสาหกรรม ฐานทัพเรือ เขตนวัตกรรม Jurong Innovation District และพื้นที่กักเก็บน้ำขนาดใหญ่ Western Water Catchment
  • ภาคตะวันตกเฉียงเหนือ : เป็นแหล่งพื้นที่เพาะปลูก
  • ภาคตะวันออกเฉียงใต้ : เป็นที่ตั้งของสนามบินนานาชาติสิงคโปร์ (Changi International Airport)
  • ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ : เป็นที่ตั้งทางทหารของสิงคโปร์ มีสนามบิน Seletar ซึ่งใช้เพื่อการทหารและเครื่องบินเช่าเหมาลำ และมีเกาะ Pulau-ubin ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ

 

สถานที่สำคัญ / สถานที่ท่องเที่ยว

Merlion Park

ตั้งอยู่ใกล้ปากแม่น้ำสิงคโปร์ เป็นจุดท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของสิงคโปร์ โดยมี Merlion (เมอร์ไลออน) รูปปั้นสัตว์ในตำนาน ครึ่งหัวเป็นสิงโต และลำตัวเป็นปลา ซึ่งถือเป็นสองอัตลักษณ์สำคัญของสิงคโปร์ ส่วนหัวสื่อความหมายถึงชื่อดั้งเดิมของสิงคโปร์คือ เมืองสิงโตหรือ “สิงหปุระ” ส่วนลำตัวสื่อถึงจุดเริ่มต้นของสิงคโปร์ที่เป็นหมู่บ้านชาวประมง Merlion สร้างขึ้นโดยช่างฝีมือชาวสิงคโปร์ที่ชื่อ ลิม นัง เส็ง (Lim Nang Seng) และเปิดตัวครั้งแรกเมื่อวันที่ 15 กันยายน 1972 โดยอดีตนายกรัฐมนตรีลีกวนยู

Marina Bay

อ่าวที่ตั้งอยู่ใกล้พื้นที่ศูนย์กลางทางฝั่งใต้ของสิงคโปร์ เกิดขึ้นจากการถมทะเลตั้งแต่ปี 1970 จากแผนแม่บทการพัฒนาเมือง เพื่อขยาย

ศูนย์กลางทางธุรกิจ มีขนาด 900 ไร่ จนปัจจุบัน กลายเป็นอ่าวที่รายล้อมไปด้วย ตึกสูง โรงแรม ศูนย์การค้า ที่อยู่อาศัย, สถานบันเทิง รวมไปถึงพื้นที่สาธารณะ สถานที่สำหรับจัดกิจกรรม และงานเทศกาลที่สำคัญๆ และในปี 2008 มีการสร้างสะพานและเขื่อนกั้นน้ำทะเล Marina Barrage เพื่อกั้นปากแม่น้ำสิงคโปร์ ทำให้อ่าวมารีน่าเป็นเสมือนอ่างเก็บน้ำกลางเมือง ให้มีแหล่งน้ำจืดเพื่อระบบประปา และเพื่อควบคุมน้ำท่วม

Esplanade - Theatres on the Bay

โรงละครที่สร้างขึ้นอยู่ภายในอาคารรูปทรงแปลก โดยแต่เดิมเคยเป็นศูนย์ศิลปะสิงคโปร์ (Singapore Arts Centre) และถูกเปลี่ยนชื่อเนื่องจากตั้งอยู่ใกล้กับสวนเอสพลานาด (Esplanade Park) ในปี 1994 เป็นศูนย์กลางของการแสดงของประเทศสิงคโปร์ ภายในแบ่งออกเป็น 3 ส่วนหลักๆคือ ส่วนของโรงละคร(Theatre) ส่วนของคอนเสิร์ต (Concert Hall) และส่วนย่อยอื่นๆที่มีทั้งห้าง ห้องสมุด คาเฟ่ และร้านขายของที่ระลึก

Singapore Flyer

ชิงช้าสวรรค์ที่ถือว่ามีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ระดับความสูง 165 เมตร เทียบเท่าอาคาร 42 ชั้น เปิดตัวในปี 2008 ชิงช้าประกอบไปด้วยแคปซูลรูปทรงกระบอกจำนวน 28 แคปซูล เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมมากเนื่องจากสามารถมองเห็นวิวมุมกว้างที่สวยงามของอ่าว Marina Bay และเมืองสิงคโปร์

Cenotaph (อนุสาวรีย์ทหารนิรนามของสิงคโปร์)

ตั้งอยู่ใจกลางย่านธุรกิจของเมือง เปิดตัวเมื่อวันที่ 31 มีนาคม 1922 และตั้งอยู่ใน สวนสาธารณะ Esplanade Park อนุสาวรีย์แห่งนี้สร้างขึ้นเพื่อระลึกถึงวีรกรรมอันกล้าหาญของเหล่าทหารที่เสียชีวิตในสงครามโลกครั้งที่ 1 และครั้งที่ 2 ที่ร่วมกันต่อสู้เพื่ออิสรภาพจากการเป็นประเทศอาณานิคม และเสียชิวิตในสมรภูมิต่างๆ โดยไม่สามารถนำร่างกลับมาฝังยังบ้านเกิด ทุกๆ วันที่ 11 พฤศจิกายนของทุกปี จะเป็นวันที่ระลึกถึงทหารผ่านศึกโดยมีการวางพวงมาลา และ สวนสนาม

Parkview Square

หนึ่งในอาการสำนักงานที่แพงที่สุด ตั้งอยู่ใจกลางเมืองสิงคโปร์และเป็นที่ตั้งของสถานทูตหลายแห่ง ได้รับขนานนามว่า “เมืองก็อทแธมแห่งสิงคโปร์” การออกแบบตัวอาคารเป็นแบบ Modern Art Deco ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากอาคาร Chanin Building นครนิวยอร์กความโดดเด่นของอาคารคือ พื้นที่สำนักงานแต่ละชั้นไม่มีการติดตั้งเสาใดๆ ทั้งสิ้น ผู้เช่าจึงสามารถปรับเปลี่ยนพื้นที่ได้ตามความต้องการ วัสดุหลักในการก่อสร้างตัวอาคารคือ หินแกรนิตสีน้ำตาล ทองแดง เครื่องเคลือบ และกระจก นอกจากนี้ เอกลักษณ์อีกอย่างหนึ่งของอาคารคือ มีรูปปั้นเหล่าบุคคลสำคัญของโลกบริเวณ Open Plaza อาทิ อับราฮัม ลินคอล์น, เซอร์ ไอแซก นิวตัน, เชคสเปียร์, อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ ฯลฯ

Helix Bridge

สะพานคนเดินที่ยาวที่สุดและสวยงามมากที่สุดของสิงคโปร์ เปิดใช้ครั้งแรกในปี 2010 เป็นทางเชื่อมผ่านอ่าวมารีน่าเชื่อมระหว่าง Marina Bay Center ไปที่ Youth Olympic Park มีลักษณะโครงสร้างเป็นเกลียวคล้ายสร้อยลูกปัด เป็นการจำลองแบบจากโครงสร้าง DNA ที่สื่อถึง ชีวิตและความต่อเนื่อง หรือการเกิดใหม่และการเติบโต” บนสะพานจะมีตัวอักษรสี ได้แก่ C, G และ A ซึ่งหมายถึงอนุพันธ์ย่อยๆ DNA ที่เรียกว่า  Nucleotide (นิวคลีโอไทด์) ถือเป็นรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ที่น่าสนุกสำหรับผู้ที่สนใจข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ ตอนกลางคืนจะมีการเปิดไฟ เหมาะแก่การมาเดินเล่นชมอ่าวและถ่ายรูป

Istana (ทำเนียบประธานาธิบดีสิงคโปร์)

ในภาษามาเลย์หรืออินโดนีเซีย “หมายถึงพระราชวัง” เป็นที่พำนักและสถานที่ทำงานของประธานาธิบดีสิงคโปร์ รวมถึงเป็นสถานที่ใช้ต้อนรับแขกบ้านแขกเมือง ทำเนียบ Istana ตั้งอยู่ในที่ที่เคยเป็นไร่ต้นจันทน์เทศมาก่อน จึงมีพันธุ์พืชและสัตว์ต่างๆ ให้ความร่มรื่นท่ามกลางความวุ่นวายของเมือง โดยปกติแล้วจะมีการเปิดให้คนทั่วไปเข้าชมสถานที่ในวันหยุดราชการ ปีละ 5 ครั้ง

National Gallery Singapore (หอศิลป์แห่งชาติสิงคโปร์)

หอศิลป์หรือพิพิธภัณฑ์ที่ใหญ่ที่สุดและใหม่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พื้นที่แต่เดิมเป็นอนุสาวรีย์แห่งชาติ 2 แห่ง ได้แก่ อดีตที่ทำการศาลฎีกา และศาลาว่าการของสิงคโปร์ ถือเป็นสถานที่ยืนยันถึงความเป็นมาทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญของสิงคโปร์ รูปแบบของอาคารเป็นแบบโคโลเนียล ด้านในตกแต่งแบบนีโอคลาสสิค ผสมผสานความโมเดิร์น มีขนาด 64,000 ตารางเมตร จัดแสดงผลงานศิลปะที่หลากหลายมากกว่า 8,000 ชิ้น ทั้งผลงานระดับชาติของสิงคโปร์ ผลงานศิลปะสมัยใหม่ของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และทั่วโลก

The Arts House (อาคารรัฐสภาเก่า)

อาคารสไตล์โคโลเนียล ที่แต่เดิมเป็นอาคารรัฐสภาเก่าแห่งแรกของประเทศสิงคโปร์ ออกแบบและจัดสร้างโดยสถาปนิก G.D. Coleman และในปี 1992 ได้รับการประกาศอย่างเป็นทางการว่าเป็นอนุสาวรีย์แห่งชาติ จนกระทั่งในปี 2003 ได้รับการแปลงโฉมให้เป็น The Arts House เป็นสถานที่ที่เป็นจุดรวมของศิลปะ ดนตรี การเต้นรำ การฉายฟิล์ม การแสดงตลก และโรงหนังที่ทันสมัยของชาวสิงคโปร์และนักศิลปะระดับโลก ที่นี่มีรูปปั้นช้างที่ทำจากบรอนซ์ เป็นของขวัญจากพระจุลจอมเกล้ารัชกาลที่ห้าของประเทศไทย ที่เสด็จประพาสในปี 1871

ภูมิอากาศ

ภูมิอากาศคล้ายคลึงกับภาคใต้ของประเทศไทย คือร้อนชิ้น ฝนตกชุกตลอดปี และเนื่องจากอยู่ในเขตใกล้เคียงเส้นศูนย์สูตร สภาพอากาศมีความแตกต่างไม่มาก จึงมีฤดูเพียง 2 ฤดู ได้แก่

ฤดูร้อน กุมภาพันธ์ - ตุลาคม

ฤดูฝน พฤศจิกายน - มกราคม

 

เวลา

เวลามาตรฐานของสิงคโปร์ (SST- Singapore Standard Time) คือ UTC/GMT+8 เวลาจะเร็วกว่าประเทศไทย 1 ชั่วโมง

 

สกุลเงิน

  • สกุลเงินของสิงคโปร์คือ ดอลล่าร์สิงคโปร์ (SGD)
  • ค่าเงินแบ่งออกเป็น เงินเหรียญ ได้แก่ 1/ 5/ 10/ 20/ 50 cent และธนบัตร ได้แก่  2/ 5/ 10/ 50/ 100/ 1,000 

 

วัฒนธรรม และสังคม

  • เป็นประเทศที่มีความหลากหลายทางเชื้อชาติและวัฒนธรรมสูงมาก ประชากรส่วนใหญ่เป็นเชื้อสายจีน ส่วนใหญ่ยังยึดถือธรรมเนียมปฏิบัติดั้งเดิม ทำให้มีวัฒนธรรมหลากหลายทั้งทางด้านอาหาร การแต่งกาย ตลอดจนความเชื่อ และการบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ
  • ภาษาประจำชาติคือ ภาษามาเลย์ ภาษาราชการมี 4 ภาษา คือ ภาษาอังกฤษ ภาษาจีนกลาง ภาษาทมิฬ และภาษามาเลย์ สำหรับภาษาธุรกิจและการบริหารมักใช้ภาษาอังกฤษ คนส่วนใหญ่พูดได้สองภาษา คือภาษาแม่ของตนและภาษาอังกฤษ
  • คนสิงคโปร์นับถือศาสนาพุทธ คริสต์ อิสลาม เต๋า ฮินดู  และไม่นับถือศาสนา
  • รัฐบาลสิงคโปร์ให้ความสำคัญกับการศึกษามาก เพราะถือว่าประชาชนเป็นทรัพยากรที่สำคัญ และมีค่าที่สุดของประเทศ ดังนั้นจึงสนับสนุนการศึกษาแบบให้เปล่า มีนโยบายให้การศึกษาแก่เด็กทุกคน และส่งเสริมให้เรียนรู้ พัฒนาความถนัดและศักยภาพของตนเอง อีกทั้งส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต โรงเรียนส่วนใหญ่เป็นโรงเรียนของรัฐบาลหรือกึ่งรัฐบาล ส่วนสถานศึกษาเอกชนทุกแห่งต้องขึ้นทะเบียนกับกระทรวงศึกษา
  • คนสิงคโปร์อยู่ในสภาวะเร่งรีบในการเดินทางและการทำงาน ชีวิตประจำวันส่วนใหญ่อยู่กับงาน เมื่อหลังเลิกงาน ใช้เวลานอกบ้านเพื่อรับประทานอาหารหรือพักผ่อนโดยการเดินซื้อของหรือดูหนัง ฟังเพลง ส่วนการพักผ่อนในช่วงสุดสัปดาห์นิยมไปสวนสาธารณะ ชายหาด
  • ชาวสิงคโปร์ถือว่ามาตรฐานการครองชีพของตนดีกว่าประเทศอื่น แต่ขณะเดียวกันความกลัวในจิตใจ คือ กลัวความล้มเหลวกับกลัวการเสียเปรียบ

การเดินทางในประเทศ

สิงคโปร์เป็นประเทศที่มีระบบขนส่งสาธารณะดีที่สุดประเทศหนึ่งของโลก มีหลายรูปแบบให้เลือก ทำให้เดินทางในประเทศค่อนข้างง่าย

 

การเดินทางด้วยรถไฟ : เป็นที่นิยมที่สุด เพราะเข้าใจง่าย สะดวก รวดเร็ว และราคาประหยัด เครือข่ายรถไฟหลักของสิงคโปร์ เรียกว่าระบบ MRT (Mass Rapid Transit) จะวิ่งอยู่ใต้ดิน (ยกเว้นสถานีห่างไกลจะอยู่บนดิน) สามารถกดซื้อตั๋วที่ตู้อัตโนมัติที่สถานี หรือซื้อบัตรเติมเงิน EZ-Link (สามารถใช้กับระบบขนส่งสาธารณะหลักๆ ของสิงคโปรได้หมด ทั้งรถไฟ รถราง และรถบัส)

 

ราคาค่าโดยสารเริ่มต้นประมาณ 0.78  - 2.6 เหรียญสิงคโปร์ เที่ยวแรกจะวิ่งประมาณ 5.30 น. และเที่ยวสุดท้ายตอนเที่ยงคืน

 

การเดินทางด้วยรถประจำทาง : เป็นที่นิยมอันดับ 2 เพราะราคาไม่แพง และมักจะมีป้ายจอดมากกว่ารถไฟ เหมาะกับการเดินทางนอกเส้นทางรถไฟ ที่ป้ายรถจะมีข้อมูลของเบอร์/เส้นทางเดินรถ ตารางเวลา และบอกสถานะของรถว่าอีกกี่นาทีจะมาถึงป้าย ค่ารถสามารถจ่ายเป็นเงินสด โดยควรเตรียมให้พอดี เพราะไม่มีการทอน หรือแตะบัตรเติมเงิน EZ-Link การใช้บริการคือ ให้ต่อคิวขึ้นด้านหน้า เมื่อต้องการลงให้กดปุ่มก่อนถึงป้าย และลงประตูกลาง กรณีใช้บัตรเติมเงิน EZ-Link ให้แตะบัตรอีกครั้งก่อนลง 

 

ราคาค่าโดยสารเริ่มต้นประมาณ 0.79 เหรียญสิงคโปร์ จะแพงขึ้นไปเรื่อยๆ ตามระยะทาง และอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามช่วงเวลาของวัน เช่น ช่วง Peak หรือช่วงดึก

 

การเดินทางด้วย Taxi : สะดวกที่สุด แต่ราคาแพงที่สุด ค่าบริการเป็นระบบมิเตอร์ที่คิดตามระยะทาง และมีเงื่อนไขอื่นๆ เช่น ค่าโดยสารจะเพิ่มขึ้นช่วง Rush Hour, วันหยุดสุดสัปดาห์, ช่วงเวลากลางคืน, การเดินทางไปสนามบิน รวมถึงราคาที่แตกต่างตามรุ่นของรถ

 

การเช่าจักรยาน : เหมาะกับการเที่ยวในเขตเมืองและระยะทางสั้นๆ สิงคโปร์เป็นเกาะค่อนข้างเล็ก สามารถปั่นจักรยานจากย่านหนึ่งไปอีกย่านหนึ่งได้สบายๆ

 

Grab car : ซึ่งปัจจุบันเป็นที่นิยมอย่างมาก สามารถเรียกรถและชำระเงินผ่าน Mobile application ได้เหมือนอยู่ประเทศไทย ราคาคิดตามระยะทางของสถานที่ที่ไป 

Tips

  • น้ำประปาดื่มได้
  • ตามกฎหมายของสิงคโปร์ระบุไว้ว่า ห้ามนำเข้า/ห้ามจำหน่ายและห้ามมีหมากฝรั่งในครอบครอง
  • ชาวสิงคโปร์ให้ความสำคัญในเรื่องการตรงต่อเวลา
  • หากเป็นคนต่างเพศกัน ไม่ควรทักทายชาวมาเลย์สิงคโปร์ด้วยการจับมือ
  • ชาวสิงคโปร์ถือว่าเท้าเป็นสิ่งสกปรก ไม่ควรใช้เท้าชี้แตะส่งของต่างๆ
  • ค่ารักษาพยาบาลในสิงคโปร์แพงกว่าประเทศไทยมาก และการซื้อยารักษาโรคประเภทยาปฏิชีวนะและยาอันตราย จะต้องมีใบสั่งแพทย์ 
  • ปลั๊กไฟฟ้าเป็นแบบเต้าเสียบ 3 ขา ใช้กับกระแสไฟฟ้า 220 โวลต์
  • ค่าบัตรเติมเงิน Ez-Link ในการซื้อครั้งแรก ราคา 12 ดอลลาร์สิงคโปร์ ซึ่งจะมีมูลค่าในบัตร 7 ดอลลาร์สิงคโปร์ ทั้งนี้ มูลค่าในบัตรจะขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้ซื้อ ด้วยการเติมมูลค่าขั้นต่ำ 10 ดอลลาร์สิงคโปร์/ครั้ง
  • ควรสอบถามราคาสินค้าก่อนที่จะตกลงซื้อ โดยเฉพาะสินค้าอาหารตามศูนย์อาหาร เพื่อป้องกันการเกิดปัญหาเมื่อร้านค้าเรียกเก็บเงิน
  • ในศูนย์อาหารหรือที่นั่งรวมของร้านอาหารตามตลาดสด หากมีสัมภาระวางไว้ แสดงถึงการจองที่นั่งเรียบร้อยแล้ว
  • ควรเดินอยู่บนทางเท้าหรือเส้นทางสำหรับเดินเท้าที่กำหนด ไม่ควรเดินบนหญ้า
  • ควรที่จะยืนชิดซ้ายเมื่อขึ้นบันใดเลื่อน บันไดเลื่อนด้านขวาเป็นทางสำหรับผู้เร่งรีบ
  • ไม่ควรให้ทิป ทั้งที่โรงแรม ภัตตาคาร ร้านอาหาร เนื่องจากมีการเรียกเก็บค่าบริการ (Services Charge) ร้อยละ 10 ในบิลของลูกค้าแล้ว
  • ไม่พูดหรือออกความเห็นเกี่ยวกับการเหยียดชาติหรือเหยียดสีผิว เนื่องจากสิงคโปร์เป็นสังคมหลายเชื้อชาติ
  • ไม่ใช้มือซ้ายในการหยิบอาหาร หรือหยิบของให้แก่ผู้อื่น รวมถึง ไม่ควรใช้มือซ้ายในการทักทายหรือจับมือ
  • ควรขึ้นรถประจำทางให้ถูกประตู และไม่สามารถกดกริ่งเพื่อขอลงรถนอกป้าย เพราะพนักงานขับรถไม่สามารถหยุดรถนอกป้ายได้
  • ควรสังเกตป้ายประกาศต่างๆ ที่แสดงไว้ในที่สาธารณะ และปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด เนื่องจาก สิงคโปร์เป็นประเทศมีกฎ/ระเบียบต่างๆ และมีเจ้าหน้าที่คอยตรวจตราอยู่เสมอ หากปฏิบัติผิดกฎ จะต้องจ่ายค่าปรับที่มีอัตราสูง เช่น การข้ามถนนในที่ไม่มีทางม้าลายหรือไม่มีสัญญาณไฟ การทิ้งขยะเรี่ยราด การถ่มน้ำลายในที่สาธารณะ การรับประทานอาหารและเครื่องดื่มในรถไฟฟ้า (MRT) บริเวณชานชาลารถไฟฟ้า และในรถประจำทาง