โครงการนักเรียนแลกเปลี่ยนกลุ่มประเทศแถบสแกนดิเนเวีย (Denmark - Norway - Sweden)
เหมาะสำหรับ : นักเรียนที่ต้องการประสบการณ์การเรียนและใช้ชีวิตในประเทศฝั่งยุโรปขนาดเล็กที่มีความปลอดภัยสูง ติดอันดับประเทศที่มีคุณภาพชีวิตและการศีกษาระดับต้นของโลก และมีความสนใจวิชาด้านการออกแบบ โดยเฉพาะแนว Minimalist หรือด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
เดนมาร์ก
Denmark in brief :
- เป็นประเทศหนึ่งในกลุ่มนอร์ดิก 5 ประเทศ มีชื่อทางการคือราชอาณาจักรเดนมาร์ก ได้รับการจัดอับดับว่าเป็นประเทศร่ำรวยระดับ 1 ใน 10 ของโลก และอยู่ไม่เกินอันดับ 3 ที่ประชากรมีความสุขที่สุดในโลก
- มีประชากรประมาณ 4 ล้านคน เศรษฐกิจมีขนาดเล็ก แต่มีความก้าวหน้าด้านอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีสูง เป็นประเทศที่ภาษีแพงเกือบทีสุดในโลก (มากกว่า 60% ของรายได้) แต่มีระบบสังคมสวัสดิการที่ดีมาก
- มีความก้าวหน้าในการใช้พลังงานทางเลือก และมีการจัดการสิ่งแวดล้อมในระดับแนวหน้าของโลก คนเดนส์มีปรัชญาการใช้ชีวิตที่ติดเทรนด์ทั่วโลกที่เรียกว่า ฮุกกะ (Hygge) มีความหมายว่า ความเรียบง่าย พบได้จากทัศนคติ รูปแบบความคิดและชีวิตความเป็นอยู่
ภาษาที่ใช้ : เดนิช (ภาษาราชการ) แต่คนส่วนใหญ่ใช้ภาษาอังกฤษได้
การศึกษาประเทศเดนมาร์ก :
- เด็กนักเรียนเดนมาร์กต้องเข้าโรงเรียนเมื่อมีอายุครบ 7 ขวบ โดยมีสิทธิ์เข้าเรียนในโรงเรียนของรัฐแบบไม่เสียค่าเล่าเรียน การศึกษาภาคบังคับคือ ระดับประถมศึกษา - มัธยมศึกษาตอนต้น มีระยะเวลา 9 ปี
- นักเรียนจะได้รับการประเมินคะแนนในวิชาเรียนอย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง เฉพาะใน Grade 8, 9, 10 เท่านั้น
- มีระบบการศึกษาที่ยืดหยุ่น เด็กนักเรียนเดนมาร์กจะเรียนวิชาพื้นฐานที่หลากหลายในชั้นประถม เช่น คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ภาษาต่างประเทศ งานช่าง งานฝีมือต่างๆ จนเข้าช่วงมัธยมต้น ที่จะเริ่มเรียนวิชาที่ชอบและสนใจโดยมีครูที่มีส่วนรวมให้คำแนะนำและสนับสนุนตามความถนัด
- ในปี 2553 เดนมาร์กได้รับการจัดอันดับให้อยู่ลำดับที่ 3 ของโลกทางด้านความได้เปรียบทางด้านการศึกษา
นอร์เวย์
Norway in brief :
- ดินแดนแห่งพระอาทิตย์เที่ยงคืน ชื่อทางการว่า ราชอาณาจักรนอร์เวย์ เป็น 1 ใน 5 ประเทศกลุ่มนอร์ดิก อยู่ติดกับ ประเทศสวีเดน ฟินแลนด์ และรัสเซีย
- พื้นที่ของนอร์เวย์มักถูกปกคลุมด้วยน้ำแข็ง ส่วนใหญ่เป็นที่ราบสูงและภูเขาสูง มีภูมิประเทศที่เกิดจากธารน้ำแข็งอย่างฟยอร์ด (Fjords) ที่สวยงามติดอันดับโลก
- จำนวนประชากรมีประมาณ 5 ล้านคน เป็นประเทศมีจีดีพีต่อประชากรสูงเป็นอันดับต้นๆ ของโลก ถือเป็นหนึ่งในประเทศร่ำรวยที่สุดในโลก
- มีการลงทุนในระบบผลิตน้ำประปา รวมไปถึงการตรวจสอบคุณภาพน้ำสม่ำเสมอ เพื่อทำให้ประชาชนสามารถดื่มน้ำจากก๊อกน้ำสาธารณะได้อย่างปลอดภัย
- ปัจจุบัน คุณภาพน้ำประปาที่นอร์เวย์มีคุณภาพดีที่สุด 3 อันดับแรกของโลก
- นอร์เวย์เป็นหนึ่งในประเทศที่อยู่ในกลุ่มการเกิดอาชญากรรมต่ำ และมีการรายงานว่าเรือนจำหลายแห่งปิดทำการเนื่องจากไม่มีนักโทษ ทำให้สามารถมั่นใจได้ถึงความปลอดภัย
- คนนอร์ดิกเป็นมิตรกับชาวต่างชาติ และได้รับการจัดอันดับจากสถาบันกฎหมาย UCLA School Williams ให้เป็น 1 ใน 5 ประเทศของโลกที่เปิดรับกลุ่ม LGBTQ+
ภาษาที่ใช้ : นอร์เวย์ (เป็นภาษาราชการ) แต่คนส่วนใหญ่ใช้ภาษาอังกฤษได้ดี
การศึกษาประเทศนอร์เวย์ :
- การศึกษาภาคบังคับ (Obligatorisk) ที่ไม่เสียค่าเล่าเรียนสำหรับเด็กนอร์เวย์ทุกคน เริ่มตั้งแต่ระดับชั้น 1-10 (เทียบกับระบบการศึกษาไทยคือตั้งแต่ระดับ ป.1 – ม.4)
- ระดับมัธยมศึกษาไม่ถือเป็นภาคบังคับ แบ่งออกเป็น 2 สาย คือ
- สายสามัญ (Studieforberedende utdanning) ระยะเวลาเรียน 3 ปี เพื่อเตรียมเรียนต่อมหาวิทยาลัย
- สายอาชีพ (Yrkesfaglig utdanning) เพื่อไปประกอบอาชีพเฉพาะในสายงานต่างๆ โดยมีระยะเวลาเรียน 4 ปี (ภาคทฤษฎี 2 ปี และฝึกงาน 2 ปี) เมื่อเรียนจบจะได้ประกาศนียบัตรรับรองเพื่อประกอบวิชาชีพเฉพาะ (Fagbrev) และหากต้องการเรียนต่อมหาวิทยาลัย ต้องไปเรียนหลักสูตรปรับพื้นฐานเตรียมเข้ามหาวิทยาลัยเพิ่ม 1 ปี
- ตามระบบการศึกษาของนอร์เวย์ มีกฎห้ามวัดผลการเรียนช่วง 7 ปีแรกของการศึกษาภาคบังคับ การสอบและวัดผลการเรียนด้วยเกรดเริ่มเมื่อถึงระดับชั้น 7 หรือ ม.1 เกรดแบ่งเป็น 1-6 (6 คือดีมาก)
สวีเดน
Sweden in Brief :
- ตั้งระดับเดียวกับอลาสก้า ไซบีเรีย ทำให้ทางเหนือของประเทศที่ติดกับขั้วโลกเหนือมีอุณหภูมิหนาวเย็นตลอดปี ฤดูหนาวบางปีอาจยาวนานถึง 8 เดือนและมีแสงแดดแค่ 3 ชั่วโมงต่อวัน ประชากรส่วนใหญ่จะอาศัยอยู่ทางตอนใต้ของประเทศและตามแนวชายฝั่งทางภาคใต้
- เป็นประเทศที่ปลอดภัยและเป็นมิตรสำหรับการอยู่อาศัย มีวัฒนธรรมที่เรียบง่าย ไม่มีลำดับชั้น และเปิดกว้างยอมรับความคิดเห็นของทุกคน วิถีชีวิตแบบสวีเดนคือ ความอ่อนน้อมถ่อมตน และมีความเท่าเทียมกัน เชื่อในศักยภาพส่วนบุคคลในการร่วมกันสร้างความสำเร็จเพื่อส่วนรวม
- เป็นประเทศที่ก้าวหน้าทางเทคโนโลยี เป็นผู้นำด้าน ICT พลังงานสะอาด และการวิจัยอวกาศเพื่อวัตถุประสงค์ในทางสันติ นอกจากนั้นยังเป็นประเทศที่มีมาตรฐานด้านการศึกษาที่สูง โดยมีปรัชญาด้านการศึกษาคือสนับสนุนการค้นคว้าวิจัย และเรียนรู้เพื่อผลักดันการคิดอย่างอิสระ และพัฒนาความรู้ของตนเอง
- การใช้ชีวิตในสวีเดนไม่เหมือนที่อื่นๆ ในโลก ที่นี่จะสอนให้ประชากรสามารถบาลานซ์ชีวิตทำงานกับการพักผ่อนได้อย่างดีเยี่ยม ทั้งยังส่งเสริมการสร้างความสุขแบบยั่งยืน
ภาษาที่ใช้ : สวีดิช (เป็นภาษาราชการ) แต่คนส่วนใหญ่ใช้ภาษาอังกฤษได้ดี
การศึกษาประเทศสวีเดน :
- สวีเดนจัดการศึกษาภาคบังคับไว้ 9 ปี โดยเด็กนักเรียนในสวีเดนไม่ต้องเสียค่าเล่าเรียน
- แบ่งระดับออกเป็น 4 ระดับคือ
- ระดับปฐมวัย (Förskola)
- ระดับประถมศึกษา (Grundskola)
- มัธยมศึกษา (Gymnasium)
- อุดมศึกษา (Högskola)
- ระดับมัธยมแบ่งเป็นระดับมัธยมต้นและมัธยมปลาย โดยระดับมัธยมต้นถือเป็นการศึกษาภาคบังคับ ส่วนระดับมัธยมปลาย 3 ปี ไม่เป็นการศึกษาภาคบังคับ เรียกว่า โปรแกรมการเรียนแห่งชาติ (National Program) แบ่งเป็น
- สายวิชาการหรือสายสามัญ 2 โปรแกรม
- สายวิชาชีพ 14 โปรแกรม
โดยทุกโปรแกรมต้องเรียนวิชาบังคับ 8 วิชาได้แก่ ภาษาสวีดิช ภาษาอังกฤษ คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์
สังคมศาสตร์ ศาสนา พลศึกษา สุนทรียกิจกรรม
การเรียนของนักเรียนแลกเปลี่ยน :
- นักเรียนจะต้องเรียนวิชาหลัก (Core subject) 5 วิชา ได้แก่ วิชาอังกฤษ คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ สังคมศึกษา พลศึกษา และมีวิชาเลือก (Elective subject) ที่หลากหลาย สามารถเลือกเรียนได้ตามความสนใจ หรือโรงเรียนแนะนำตามความเหมาะสมของระดับภาษาของนักเรียน เช่น ภาษา ศิลปะ ร้องเพลง ละคร เป็นต้น
- เมื่อจบโครงการฯ ได้รับใบประกาศนียบัตร OEG และนักเรียนสามารถขอ Report card* จากทางโรงเรียนได้
*Report card แสดงสถานะการเข้าเรียนในต่างประเทศ 1 ปีการศึกษา และผลคะแนนที่ไม่ได้เทียบเป็นเกรด
การนำกลับมาเทียบชั้นและเกรดในประเทศไทย ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของแต่ละโรงเรียน OEG แนะนำให้นักเรียนปรึกษากับทางโรงเรียนก่อนตัดสินใจเข้าร่วมโครงการฯ
คุณสมบัติของนักเรียนแลกเปลี่ยน :
คุณสมบัติพื้นฐาน
|
คุณสมบัติเฉพาะ |
- เกิดระหว่าง 1 มีนาคม 2550 - 31 กรกฎาคม 2553
- ศึกษาระดับชั้นม. 3 – 5 และมีสถานภาพนักเรียนจนถึงวันเดินทาง
- มีเกรดเฉลี่ยแต่ละเทอมไม่ต่ำกว่า 2.5 ในสามปีการศึกษาล่าสุด โดยมีเกรดไม่ต่ำกว่า 2.0 ในวิชาหลัก (วิทย์/คณิต/อังกฤษ/สังคม/พละ) - นักเรียนชั้น ม.3 ใช้สองปีการศึกษาล่าสุด
- สอบผ่านเกณฑ์วัดระดับภาษาอังกฤษของ OEG
- มีพื้นฐานภาษาอังกฤษอยู่ในระดับปานกลางขึ้นไป ที่ใช้สื่อสารในชีวิตประจำวัน และในชั้นเรียนได้ดี
- มีทัศนคติที่ดี มั่นใจในตัวเอง เปิดกว้างทางความคิด พร้อมเปิดรับการเปลี่ยนแปลง และวัฒนธรรมที่แตกต่าง
- สุขภาพสมบูรณ์ แข็งแรง มีสุขภาพจิตและสภาวะทางอารมณ์ในเกณฑ์ปกติ ไม่มีโรคประจำตัวที่เป็นอุปสรรค และขัดต่อข้อกำหนดของโครงการฯ เช่น โรคเบาหวาน โรคลมชัก โรคทางจิตเวชที่ได้รับการวินิจฉัยจากจิตแพทย์
|
ไม่ต้องมีพื้นฐานภาษาแต่ละประเทศขณะสมัคร แต่ควรเรียนให้ มีความรู้ภาษาระดับเบื้องต้นก่อนเดินทางเข้าร่วมโครงการฯ |
ขั้นตอนเข้าร่วมโครงการนักเรียนแลกเปลี่ยน :
- สมัครและสอบ
- ประชุมรับฟังข้อมูลโครงการนักเรียนแลกเปลี่ยน (Parents Info Meeting)
*เป็นข้อกำหนดของโครงการฯ ที่ผู้ปกครองต้องเข้าฟังประชุม
- ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ และทำใบสมัครภาษาอังกฤษ
- เข้าร่วมกิจกรรม และหลักสูตรเพื่อเตรียมความพร้อม (OEG High School Preparation Series)
- ยื่นวีซ่า
- ประชุมผู้ปกครอง และปฐมนิเทศก่อนการเดินทาง
- ออกเดินทางเข้าร่วมโครงการฯ
- เรียนภาษา (ขึ้นอยู่กับแต่ละองค์กร) และปฐมนิเทศ
- เข้าร่วมโครงการฯ
- ปัจฉิมนิเทศ (Re-entry) หลังจบโครงการฯ
ค่าธรรมเนียมโครงการนักเรียนแลกเปลี่ยน : 518,000 บาท (กรณีระบุประเทศ มีค่าเลือกประเทศเพิ่ม 20,000 บาท)
*วันที่ปรับปรุง: 25 เมษายน 2567
ค่าใช้จ่ายอื่นๆ :
- ค่าตั๋วเครื่องบินไป - กลับ และค่าเปลี่ยนแปลงตั๋วตามระเบียบของสายการบิน (ถ้ามี) ประสานงานโดย บริษัทตัวแทนตั๋วเครื่องบิน รวมทั้งกาเดินทางอื่นๆ
- ค่าใช้จ่ายส่วนตัวรายเดือน และค่าใช้จ่ายที่ประกันไม่คุ้มครอง
- ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับ Covid-19 เช่น การตรวจ Covid-19 การฉีดวัคซีน การ Quarantine เป็นต้น
- ค่าเรียนภาษาในประเทศไทยหรือในต่างประเทศ (กรณี OEG/โรงเรียน/องค์กรแลกเปลี่ยนกำหนดให้เรียนปรับพื้นฐาน หรือเรียนเพิ่มเติม)
- ค่าปัจฉิมนิเทศ (Re-entry) หลังจบโครงการฯ
กรุงเทพ
https://www.facebook.com/OEGHighSchool/
02 214 6151
เชียงใหม่
https://www.facebook.com/OEGCM/
053 328 117
#นักเรียนแลกเปลี่ยน
#นักเรียนแลกเปลี่ยนโออีจี
#แลกเปลี่ยนอเมริกา #แลกเปลี่ยนยุโรป
#สอบแลกเปลี่ยน
#HighSchool
#ExchangeStudent
#HighSchoolProgram
#นักเรียนแลกเปลี่ยน2566 #แลกเปลี่ยน2566
#แลกเปลี่ยนฝรั่งเศส